วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมลาว - คนลาวกับวัฒนธรรมลาว

วัฒนธรรมลาว - คนลาวกับวัฒนธรรมลาว



คนลาวนั้นเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว เป็นคนอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ มีความแข็งแรง แต่ไม่แข็งกระด้าง  เป็นคนทำอะไรก็ทำ พูดอะไรก็พูด เหมือนดั่งคำที่พวกเราเคยพูดกันเรื่อยๆว่า  ຕີຫຼົບທົບໄດ້ 



ถ้าพูดถึงการแสดงมารยาทในสังคมนั้น คนลาวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นเชื้อชาติที่มารยาทอันดีงาม เช่น  การแสดงความเคารพด้วยการไหว้ การต้อนรับแขก   มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง รับแขกตัวเองด้วยภาษาวาจาที่นิ่มนวลอ่อนหวาน  เป็นต้น การถามข่าวถึงสุขภาพว่าอยู่ดีมีสุขไหม ?  พี่น้องของเราอยู่ดีมีสุขไหม ?  กินข้าวแล้วหรือยัง ?  ปัจจุบันเพิ่งมีการใช้คำว่า :  สบายดีบ่   

การถามคำว่า :  กินข้าวแล้วหรือยัง ?  ในสมัยโบราณนั้น  ถ้าแขกของตนเองตอบว่า : ยัง  หรือ ยังไม่ได้กิน 
เจ้าของเรือนก็จะรีบหาข้าวปลาอาหารเท่าที่มีมาให้แขกของตนให้ได้กิน  ก่อนอื่นก็เป็นข้าวปลายาสูบ หรือ ไม่ก็เป็นของกิน เครื่องดื่ม อันใดอันหนึ่ง  ส่วนผู้เป็นแขกก็แสดงความปิติชื่นชมต่อการต้อนรับที่ดีนั้น ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแแจ่มใส ผู้เฒ่าผู้แก่ เคยเล่าให้ลูกๆหลานๆ ฟังเรื่อยๆว่า : คนลาวเราในสมัยก่อนเดินทางไปขึ้นเหนือล่องใต้  ไม่ค่อยถือถังข้าวไปมา ไปบ้านใดก็กินบ้านนั้น  เพียงแต่แจ้งความประสงค์ให้เจ้าบ้านนั้นรู้ว่าตนมาเป็นแขก ก็จะได้รับการต้อนรับด้วยอาหารการกินตลอดผ้าผ่อนท่อนสะใบ สำหรับนอนพักแรมคืนที่บ้านนั้นอย่างสบาย  

ดังนั้นแต่ก่อนอยู่ในแต่ละบ้าน เขาได้ปลูกศาลากลางบ้าน เพื่อไว้ต้อนรับแขกของตน จึงทำให้มีคำสอนเพื่อสอนไว้ทุกวันนี้ว่า :

,,ລູກຫຼານເອີຍ ການຂຸດນໍ້າບໍ່ກໍ່ສາລາ ຍໍຂາຜູ້ເຖົ້າບຸຸຸນໄດ້ທໍ່ກັນ,,  นั้นก็หมายถึง การแสดงออกถึงความความเสียสละส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม  แต่มาถึงปัจจุบันนี้ ยังมีคนจำนวนหนึ่งยังไม่ทันเข้าใจแจ้งถึงคำสั่งสอนนั้น จึงมีคำถามแบบเล่นๆว่า :  จำเป็นหรือไม่ จึงขุดนํ้าบ่อ เมื่อมีนํ้าประปาแล้ว ? จำเป็นหรือไม่ ที่จะสร้างศาลา เมื่อมีโรงแรมแล้ว ?  การยกขาผู้สูงอายุนั้นยกยังไง ?  ยกบบไหน ?  คำถามดังกล่าวนั้น ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจเท่านั้น แต่มันยังเป็นคำถามเพื่อสร้างความลืมเลือนจากคำสั่งสอนอันมีคุณค่า และ แสนประเสริฐของบรรพบุรุษของเราที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล คือ สมัยก่อนสอนลูกหลานเพื่อให้มีความปรองดองสามัคคีกัน ให้รู้จักเอาหัวใจหลายดวงเข้าเป็นดวงเดียวกัน   สร้างความสามัคคีทำคุณงามความดีเพื่อเอาบุญที่ได้รับ และตอบแทนจากการทำความดีในสิ่งๆนั้นให้แก่ตนเอง สิ่งเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นมารยาททางสังคม ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของคนลาว ตั้งแต่โบราณกาล จนมาถึงปัจจุบัน 













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น