ประเพณีลาว - ประเทศที่มีบุญปีใหม่ หรือ บุญรดนํ้าเหมือนกับลาว
ประเพณีบุญกุดสงกรานต์ปีใหม่ ไม่แม่นเป็นของประเทศลาวประเทศเดียวเท่านั้น ซึ่งประเพณีกุดสงกรานต์ยังมีประเทศที่ถือศาสนาพุทธร่วมกันอยู่ 5 ประเทศ เช่น ลาว ไทย พม่า กัมพูชา และสิบสองปันนา ในจีนอีกด้วย
วันนี้เราจะมานำเสนอการทำบุญปีใหม่ของแต่ล่ะประเทศ พวกเขาเป็นอย่างไร จะเหมือนกันกับบ้านเรา หรือไม่ เรามาดูกันไปพร้อมๆกันเลย
บุญกุดสงกรานต์ บุญปีใหม่ที่ลาว
บุญปีใหม่ที่ประเทศลาว จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ของลาว ( เมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14-16 เมษายน ของทุกปี ปีใหม่ลาวจะแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ
วันแรก จะเรียกว่า สังขารร่วง
วันที่สอง จะเรียกว่า วันเน่า
วันที่สาม จะเรียกว่า วันสังขารขึ้น
ฮีตที่คนลาวปฏิบัติในวันปีใหม่จะมีการบายสีสู่ขวัญ อวยพรซึ่งกันและกัน มีการขอขมาพ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ การสรงนํ้าพระ มีพิธีแห่นางสังขาร การทำบุญตักบาตรถวายอาหารให้พระ การก่อพระทราย และมีการเล่นนั้ากันอย่างสดชื่นอีกด้วย
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นมีชื่อเสียงที่สึดในลาว ในช่วงปีใหม่ลาว ต้องเป็นที่หลวงพระบาง โดยเฉพาะประเพณี แห่นางสังขาร ที่งดงามอลังการหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งภายใน และต่างชาติเดินทางมาสัมผัมบรรยากาศปีใหม่ที่เมืองนี้เป็นจำนวนมากมาย
บุญปีใหม่ที่ประเทศไทย จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ของลาว ( เดือนเมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี
กิจกรรมการขึ้นปีใหม่ในไทย ประเพณีก็จะคล้ายกันกับการทำบุญปีใหม่ในลาวและกัมพูชา ซึ่งกิจกรรมจะมีการบายศรีสู่ขวัญ อวยพรซึ่งกันและกัน มีการสมมาพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ การสรงนํ้าพระ มีพิธีแห่นางสังขาร การทำบุญตักบาตรถวายอาหารให้พระ การก่อพระทราย และมีการเล่นนํ้าอย่างสนุกสนานอีกด้วย
บุญปีใหม่ที่ เมียนม่า จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ( เดือนเมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13-17 ของทุกปี ซึ่งชาวเมียนม่า เรียก บุญกุดสงกรานต์ นี้ว่า ประเพณี เห่ยบะแวต่อ แปลว่า พิธีการเล่นนั้า
ประชาชนเมียนม่า เฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยการเล่นสาดนํ้าตลอด 5 วัน นอกจากนี้พวกเขายังถือว่าเป็นช่วงระยะเวลามงคล จึงนำยมเข้าวัด รักษาศีล สรงนํ้าพระพุทธรูป และเจดีย์ มีการสรงนํ้าให้ผู้ใหญ่และสระผมให้ผู้เฒ่าผู้แก่ด้วยนํ้าส้มป่อย และเมื่อสิ้นสุดวันสงกรานต์ชาวเมียนม่า จะจัดงานบวชเณรให้ลูกชาย และจัดงานเจาะหูให้ลูกสาว ดังนั้น ช่วงหลังวงกรานต์จะเห็นขบวนแห่ลูกแก้วและลูกหญิง ไปตามท้องถนน และรอบลานพระเจดีย์ตามวัดต่างๆ จึงมีเณรน้อยองค์ใหม่เต็มแทบทุกวัด
บุญปีใหม่ที่ประเทศกัมพูชา ชาวกัมพูชา จะเรียกบุญปีใหม่นี้ว่า โจลชนำทเมย ซึ่งจะจัดขึ้นบางปีก็จัดในวันที่ 13-15 หรือ 14-16 เมษายน ของทุกปี
เทศกาลปีใหม่ของชาวกัมพูชา กิจกรรมจะมีการทำบุญตักบาตร การตบพระทราย สรงนํ้าพระ มีการเล่นเทศกาลพื้นบ้าน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ
วันแรก ชาวบ้านจะไปทำบุญตักบาตร มีการขนทรายเข้าวัด เพื่อเตรียมก่อเจดีย์ทราย หรือ ตบพระทราย
วันที่สอง เป็นวันของครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และญาติพี่น้อง จะมารวมตัวกัน อาจมีการให้ของขวัญ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย ส่วนในตอนคํ่า จะมีการก่อเจดีย์ทรายร่วมกัน
วันที่สาม จะมีการเล่นสนุกสนานต่างๆ สรงนํ้าพระพุทธรูป สรงนํ้าผู้ใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคล
บุญปีใหม่ สิบสองปันนา ประเทศจีน บุญปีใหม่ของชาวไต สิบสองปันนา มลฑลยูนนาน ทางทิศใต้ของประเทศจีน โดยเฉพาะเมือง จงหงส์ หรือ เชียงรุ่ง จะจัดงานบุญปีใหม่ประมาณ วันที่ 13-15 เมษายน เรียกว่า เทศกาล พัวสุ่ยเจย โดยมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ ด้วยความสนุกสนาน
กิจกรรมหลักๆ ที่มีในบุญปีใหม่สิบสองปันนาก็คือ การแข่งขันเรือมังกร อันเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้ การฟ้อนรำนกยูง ที่มีความเชื่อว่านกยูงจะนำพาความโชคดีมาให้ มีการร้องลำทำเพลงต่าง นอกจากนี้ยังมีการเล่นนํ้า และการรดนั้าซึ่งกันและกัน ให้คนในเมืองนี้ พร้อมทั้งคนที่ผ่านมาเยี่ยมเยียน เพราะเชื่อว่าเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากตัวเอง
บุญกุดสงกรานต์ บุญปีใหม่ที่ลาว
บุญปีใหม่ที่ประเทศลาว จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ของลาว ( เมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14-16 เมษายน ของทุกปี ปีใหม่ลาวจะแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ
วันแรก จะเรียกว่า สังขารร่วง
วันที่สอง จะเรียกว่า วันเน่า
วันที่สาม จะเรียกว่า วันสังขารขึ้น
ฮีตที่คนลาวปฏิบัติในวันปีใหม่จะมีการบายสีสู่ขวัญ อวยพรซึ่งกันและกัน มีการขอขมาพ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ การสรงนํ้าพระ มีพิธีแห่นางสังขาร การทำบุญตักบาตรถวายอาหารให้พระ การก่อพระทราย และมีการเล่นนั้ากันอย่างสดชื่นอีกด้วย
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นมีชื่อเสียงที่สึดในลาว ในช่วงปีใหม่ลาว ต้องเป็นที่หลวงพระบาง โดยเฉพาะประเพณี แห่นางสังขาร ที่งดงามอลังการหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งภายใน และต่างชาติเดินทางมาสัมผัมบรรยากาศปีใหม่ที่เมืองนี้เป็นจำนวนมากมาย
บุญปีใหม่ที่ประเทศไทย จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ของลาว ( เดือนเมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี
กิจกรรมการขึ้นปีใหม่ในไทย ประเพณีก็จะคล้ายกันกับการทำบุญปีใหม่ในลาวและกัมพูชา ซึ่งกิจกรรมจะมีการบายศรีสู่ขวัญ อวยพรซึ่งกันและกัน มีการสมมาพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ การสรงนํ้าพระ มีพิธีแห่นางสังขาร การทำบุญตักบาตรถวายอาหารให้พระ การก่อพระทราย และมีการเล่นนํ้าอย่างสนุกสนานอีกด้วย
บุญปีใหม่ที่ เมียนม่า จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ( เดือนเมษายน ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13-17 ของทุกปี ซึ่งชาวเมียนม่า เรียก บุญกุดสงกรานต์ นี้ว่า ประเพณี เห่ยบะแวต่อ แปลว่า พิธีการเล่นนั้า
ประชาชนเมียนม่า เฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยการเล่นสาดนํ้าตลอด 5 วัน นอกจากนี้พวกเขายังถือว่าเป็นช่วงระยะเวลามงคล จึงนำยมเข้าวัด รักษาศีล สรงนํ้าพระพุทธรูป และเจดีย์ มีการสรงนํ้าให้ผู้ใหญ่และสระผมให้ผู้เฒ่าผู้แก่ด้วยนํ้าส้มป่อย และเมื่อสิ้นสุดวันสงกรานต์ชาวเมียนม่า จะจัดงานบวชเณรให้ลูกชาย และจัดงานเจาะหูให้ลูกสาว ดังนั้น ช่วงหลังวงกรานต์จะเห็นขบวนแห่ลูกแก้วและลูกหญิง ไปตามท้องถนน และรอบลานพระเจดีย์ตามวัดต่างๆ จึงมีเณรน้อยองค์ใหม่เต็มแทบทุกวัด
บุญปีใหม่ที่ประเทศกัมพูชา ชาวกัมพูชา จะเรียกบุญปีใหม่นี้ว่า โจลชนำทเมย ซึ่งจะจัดขึ้นบางปีก็จัดในวันที่ 13-15 หรือ 14-16 เมษายน ของทุกปี
เทศกาลปีใหม่ของชาวกัมพูชา กิจกรรมจะมีการทำบุญตักบาตร การตบพระทราย สรงนํ้าพระ มีการเล่นเทศกาลพื้นบ้าน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ
วันแรก ชาวบ้านจะไปทำบุญตักบาตร มีการขนทรายเข้าวัด เพื่อเตรียมก่อเจดีย์ทราย หรือ ตบพระทราย
วันที่สอง เป็นวันของครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และญาติพี่น้อง จะมารวมตัวกัน อาจมีการให้ของขวัญ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย ส่วนในตอนคํ่า จะมีการก่อเจดีย์ทรายร่วมกัน
วันที่สาม จะมีการเล่นสนุกสนานต่างๆ สรงนํ้าพระพุทธรูป สรงนํ้าผู้ใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคล
บุญปีใหม่ สิบสองปันนา ประเทศจีน บุญปีใหม่ของชาวไต สิบสองปันนา มลฑลยูนนาน ทางทิศใต้ของประเทศจีน โดยเฉพาะเมือง จงหงส์ หรือ เชียงรุ่ง จะจัดงานบุญปีใหม่ประมาณ วันที่ 13-15 เมษายน เรียกว่า เทศกาล พัวสุ่ยเจย โดยมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ ด้วยความสนุกสนาน
กิจกรรมหลักๆ ที่มีในบุญปีใหม่สิบสองปันนาก็คือ การแข่งขันเรือมังกร อันเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้ การฟ้อนรำนกยูง ที่มีความเชื่อว่านกยูงจะนำพาความโชคดีมาให้ มีการร้องลำทำเพลงต่าง นอกจากนี้ยังมีการเล่นนํ้า และการรดนั้าซึ่งกันและกัน ให้คนในเมืองนี้ พร้อมทั้งคนที่ผ่านมาเยี่ยมเยียน เพราะเชื่อว่าเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น